วันอาทิตย์ที่ 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2555

ไทยปล่อยวีซ่าง่ายไป เปิดช่องโหว่ก่อการร้าย ?



17/02/2555

เป็นเหตุระเบิดที่น่าเหลือเชื่อที่สุด เมื่อคนร้ายชาวอิหร่านพยายามโบกแท็กซี่ แต่แท็กซี่ไม่จอด คนร้ายจึงไม่พอใจปาระเบิดที่พกมา ใส่รถแท็กซี่ ได้รับความเสียหายที่ห้องเครื่อง ที่น่าสังเกตหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้ตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดเผยชนิดนี้ พบว่าเป็นระเบิดชนิดขว้าง ด้านในบรรจุดินระเบิดชนิดซีโฟร์ เมื่อขว้างออกไปจะหน่วงเวลา 5 วินาที มีรัศมีทำลาย 10 -15 เมตร รัศมีกว้างขนานนี้ ถังแก็สรถแท็กซี่น่ายระเบิดไปเต็มๆ แต่ถังแก็สของรถแท็กซี่ไม่ระเบิดแต่อย่างใด ไม่รู้ว่าคนขับมีของดีอะไร  ต่อมาคนขับแท็กซี่ได้วิ่งตามคนร้าย ซึ่งคนร้ายวิ่งไปพบตำรวจจึงควักระเบิดเพื่อจะโยนใส่แต่ทำตก เกิดระเบิดใส่ขาตัวเองขาด

ด้วยความที่คนร้ายไม่มีความเป็นมืออาชีพในการปาระเบิดหรือเปล่า จึงทำให้ฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งนายกรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม และสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกมาประสานเสียงบอกตรงกันว่า นี่ไม่ใช่การก่อวินาศกรรม และยังไม่ยืนยันว่าเป็นกลุ่มฮิซบัลเลาะห์หรือไม่

มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยและผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดเข้ามาร่วมตรวจสอบ เบื้องต้นเชื่อว่า กลุ่มที่ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ก่อเหตุที่ประเทศจอเจียร์ และอินเดียที่มีผู้บาดเจ็บ 4 คน ก่อนหน้าเหตุระเบิดในไทย  เพราะวิธีการต่อวงจรระเบิด และวิธีปฏิบัติการ มีความคล้ายคลึงกัน

แต่นักวิเคราะห์ชาวต่างชาติก็เห็นต่างครับว่ายังไม่ควรสรุปว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นไทย เชื่อมโยงไปยังการก่อการร้ายในอินเดีย และจอเจียร์ เพราะดูเหมือนว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในไทย จะเป็นแค่เพียงมือสมัครเล่นเท่านั้น
ล่าสุดโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในประเทศไทย ขณะที่ รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า ขณะนี้กำลังประสานกับทางการอิหร่าน เพื่อตรวจสอบหนังสือเดินทางของผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับได้ทั้ง 2 คน ส่วนอีกคน 1 หลบหนี้ไปมาเลเซีย และถูกทางการของมาเลเซียจับกุมตัวได้แล้ว

มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์นะครับว่าประเทศไทยปล่อยวีซ่าให้ชาวต่างชาติง่ายเกินไปหรือไม่ จนกลายเป็นช่องโหวตให้คนร้ายเดินทางเข้าไทยมาก่อเหตุได้ง่ายขึ้น

ถ้าคุณลองสังเกต การจะขอวีซ่าเข้าประเทศใหญ่ๆ มีวิธีการที่ละเอียด และเข้มงวดมากทีเดียว แต่ในไทย เราเห็นชาวต่างชาติ เดินกันให้ขวักไขว่ บางสถานที่ บางช่วงเวลามีมากกว่าคนไทยด้วยซ้ำ อย่างใน BTS นี่แสดงให้เห็นว่า ไทยหละหลวมในการตรวจสอบคนเข้าเมือง และแม้ไทยจะไม่ใช่เป้าหมายหลักของการก่อการร้าย แต่ด้วยความหละหลวมเช่นนี้หรือไม่ จึงทำให้มีโอกาสเกิดเหตุวินาศกรรม ได้มากกว่าประเทศที่เข้มงวดเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง อย่างอเมริกา ออสเตรเลีย อังกฤษ และประเทศโซนยุโรป เป็นต้น

ฝ่ายข่าว Nation U Channel



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น