17/02/2555
เป็นเหตุระเบิดที่น่าเหลือเชื่อที่สุด
เมื่อคนร้ายชาวอิหร่านพยายามโบกแท็กซี่ แต่แท็กซี่ไม่จอด
คนร้ายจึงไม่พอใจปาระเบิดที่พกมา ใส่รถแท็กซี่ ได้รับความเสียหายที่ห้องเครื่อง
ที่น่าสังเกตหน่วยเก็บกู้วัตถุระเบิด ได้ตรวจพิสูจน์วัตถุระเบิดเผยชนิดนี้
พบว่าเป็นระเบิดชนิดขว้าง ด้านในบรรจุดินระเบิดชนิดซีโฟร์
เมื่อขว้างออกไปจะหน่วงเวลา 5 วินาที มีรัศมีทำลาย 10 -15 เมตร รัศมีกว้างขนานนี้
ถังแก็สรถแท็กซี่น่ายระเบิดไปเต็มๆ แต่ถังแก็สของรถแท็กซี่ไม่ระเบิดแต่อย่างใด
ไม่รู้ว่าคนขับมีของดีอะไร
ต่อมาคนขับแท็กซี่ได้วิ่งตามคนร้าย
ซึ่งคนร้ายวิ่งไปพบตำรวจจึงควักระเบิดเพื่อจะโยนใส่แต่ทำตก
เกิดระเบิดใส่ขาตัวเองขาด
ด้วยความที่คนร้ายไม่มีความเป็นมืออาชีพในการปาระเบิดหรือเปล่า
จึงทำให้ฝ่ายความมั่นคงของไทย ทั้งนายกรัฐมนตรี กระทรวงกลาโหม
และสภาความมั่นคงแห่งชาติ ออกมาประสานเสียงบอกตรงกันว่า นี่ไม่ใช่การก่อวินาศกรรม
และยังไม่ยืนยันว่าเป็นกลุ่มฮิซบัลเลาะห์หรือไม่
มีรายงานว่าเจ้าหน้าที่สถานทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยและผู้เชี่ยวชาญด้านวัตถุระเบิดเข้ามาร่วมตรวจสอบ
เบื้องต้นเชื่อว่า
กลุ่มที่ก่อเหตุในครั้งนี้น่าจะเชื่อมโยงกับกลุ่มที่ก่อเหตุที่ประเทศจอเจียร์
และอินเดียที่มีผู้บาดเจ็บ 4 คน ก่อนหน้าเหตุระเบิดในไทย เพราะวิธีการต่อวงจรระเบิด และวิธีปฏิบัติการ
มีความคล้ายคลึงกัน
แต่นักวิเคราะห์ชาวต่างชาติก็เห็นต่างครับว่ายังไม่ควรสรุปว่าเหตุระเบิดที่เกิดขึ้นไทย
เชื่อมโยงไปยังการก่อการร้ายในอินเดีย และจอเจียร์
เพราะดูเหมือนว่าคนร้ายที่ก่อเหตุในไทย จะเป็นแค่เพียงมือสมัครเล่นเท่านั้น
ล่าสุดโฆษกกระทรวงการต่างประเทศอิหร่าน
ปฏิเสธไม่มีส่วนเกี่ยวข้องกับเหตุระเบิดในประเทศไทย ขณะที่ รมว.ต่างประเทศ ระบุว่า
ขณะนี้กำลังประสานกับทางการอิหร่าน
เพื่อตรวจสอบหนังสือเดินทางของผู้ต้องสงสัยที่ถูกจับได้ทั้ง 2 คน ส่วนอีกคน 1
หลบหนี้ไปมาเลเซีย และถูกทางการของมาเลเซียจับกุมตัวได้แล้ว
มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์นะครับว่าประเทศไทยปล่อยวีซ่าให้ชาวต่างชาติง่ายเกินไปหรือไม่
จนกลายเป็นช่องโหวตให้คนร้ายเดินทางเข้าไทยมาก่อเหตุได้ง่ายขึ้น
ถ้าคุณลองสังเกต
การจะขอวีซ่าเข้าประเทศใหญ่ๆ มีวิธีการที่ละเอียด และเข้มงวดมากทีเดียว แต่ในไทย
เราเห็นชาวต่างชาติ เดินกันให้ขวักไขว่ บางสถานที่
บางช่วงเวลามีมากกว่าคนไทยด้วยซ้ำ อย่างใน BTS นี่แสดงให้เห็นว่า
ไทยหละหลวมในการตรวจสอบคนเข้าเมือง และแม้ไทยจะไม่ใช่เป้าหมายหลักของการก่อการร้าย
แต่ด้วยความหละหลวมเช่นนี้หรือไม่ จึงทำให้มีโอกาสเกิดเหตุวินาศกรรม
ได้มากกว่าประเทศที่เข้มงวดเรื่องการตรวจคนเข้าเมือง อย่างอเมริกา ออสเตรเลีย
อังกฤษ และประเทศโซนยุโรป เป็นต้น
ฝ่ายข่าว
Nation
U Channel
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น