15/12/2554
เป็นเรื่องที่พูดกันมายาวนานว่า
จะปฏิรูปการศึกษา แต่ปัจจุบันก็ยังไม่เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรม
ขณะเดียวกันก็มีข้อมูลที่ตอกย้ำที่ความล้มเหลวของการจักการศึกษาในประเทศไทย
สถิติจากนักวิจัยมูลนิธิสาธารณสุขแห่งชาติ สนับสนุนโดยสำนักงานกองทุนสร้างเสริมสุขภาพ
(สสส.) กล่าวว่า ประเทศไทยถูกจัดลำดับที่
มีเวลาเรียนที่เยอะที่สุดในโลก เมื่อรองมาจากประเทศญี่ปุ่น
เหตุที่เรียนหนักจึงส่งผลทำให้มี เด็กไทย ต้องออกกลางคันจำนวนปีละ 900,000 คน ต่อปีและมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นทุกปี และมีปัญหา ตั้งครรภ์
ก่อนวัยอันควรจำนวน 1,500,000 คน ใน 2
ปีที่ผ่านมา และยังมีเยาวชนติดโรคเอดส์ จำนวน 1,358,000 คน
ใน 3 ปี และจะเพิ่มขึ้นทุกปี และมีค่าเรียนที่แพง
จนมีเด็กไทยหลายคน เลือกทำอาชีพที่ผิดกฎหมายกันมากขึ้น จำนวน 386,250 คน ต่อปี เด็กที่ประกอบอาชีพที่ผิดกฎหมาย เช่น ข่ายตัว ค้าขายเสพติด
เป็นต้น สาเหตุที่เด็กทำผิด เฉพาะ ต้องการหาเงินเป็นค่าเรียน และ การเรียนพบว่า
เด็กไทยมีเวลาเรียนวันละ 8-10 คาบ ต่อวัน
แต่มีเด็กจำนวนไม่น้อยไม่อยากเรียนหนังสือเพราะเบื่อหน่วย และที่น่าเป็นห่วงที่สุด
เด็กจำนวน ร้อยละ 87 มีเวลา
พูดคุยกับ พ่อแม่ วันละ 10 นาที
จึงทำให้เด็กไม่มีเวลาได้บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ
ลักษณะของการศึกษาไทยเป็นลักษณะสายพาน
โรงเรียนเป็นโรงงานอุตสาหกรรม นักเรียนเป็นผลิตภัณฑ์
ทำให้เกิดการแข่งขันเพื่อให้สามารถเข้ามหาวิทยาลัยชั้นนำของรัฐ
โดยลืมนึกไปถึงการประกอบอาชีพในอนาคต มีนักเรียนที่เรียนสายสามัญมากกว่าสายอาชีพ
ทั้งๆที่ตลาดแรงงานต้องการผู้ที่จบสายอาชีพมากกว่า ก่อให้เกิดปัญหาการว่างงาน
ส่งผลกระทบไปทั่ว เพราะการที่การศึกษาไทยสอนแต่เรื่องวิชาการ
แต่ลืมสอนให้ทำความรู้จักตนเอง และการเป็นอยู่
ภาพของการศึกษาไทยในปัจจุบัน
ไม่ได้เป็นภาพที่การศึกษาโดยเน้นผู้เรียนเป็นศูนย์กลาง
ตามที่กระทรวงศึกษาธิการเน้นย้ำ แต่กลับเป็นการนำตารำเป็นศูนย์กลาง
ขณะเดียวกันก็มีการลดจำนวนชั่วโมงเรียน วิชาศีลธรรม หรือ พระพุทธศาสนา
แล้วไปเพิ่มวิชาที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีแทน
ตอนนี้ต้องรีบปฏิรูปการศึกษาให้เร็วที่สุด
โดยนำศีลธรรมกลับมาเป็นแกนหลัก มิเช่นนั้นประเทศไทยจะมีแต่ปัญหา มีแต่คนเห็นแก่ตัว
มีการการแข่งขัน ประเทศไทยจะเดินต่อไปไม่ ไม่สงบสุข
ฝ่ายข่าว Nation U Channel
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น